ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดทรงตัว ตลาดกังวลความตึงเครียดรัสเซีย-ยูเครน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 21, 2024 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันพุธ (20 พ.ย.) หลังการซื้อขายผันผวน ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างยูเครนและรัสเซียซึ่งยังคงกดดันตลาดต่าง ๆ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 500.49 จุด ลดลง 0.11 จุด หรือ -0.022%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,198.45 จุด ลดลง 31.19 จุด หรือ -0.43%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,004.78 จุด ลดลง 55.53 จุด หรือ -0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,085.07 จุด ลดลง 13.95 จุด หรือ -0.17%

ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ยูเครนยิงขีปนาวุธสตอร์ม ชาโดว์ (Storm Shadow) ของอังกฤษเข้าใส่รัสเซียในวันพุธ หนึ่งวันหลังจากที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โจ ไบเดนที่กำลังจะหมดวาระ ให้ยิงขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ เข้าสู่รัสเซียได้

รัสเซียได้ปรับลดเกณฑ์สำหรับการใช้อาวุธนิวเคลียร์ และสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเปิดกว้างสำหรับการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนกับว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีเงื่อนไขว่าข้อตกลงดังกล่าวจะต้องไม่รวมถึงการยอมยกดินแดนสำคัญ และยูเครนต้องยกเลิกแผนการเข้าร่วมนาโต (NATO)

ดัชนีความผันผวน (Euro STOXX volatility index) ปิดที่ระดับ 20.06

หุ้นกลุ่มรถยนต์ ร่วงลง 1.2% และหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 0.7% และถ่วงดัชนี STOXX 600 ลงมากที่สุด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้น 17.8% ของหุ้นเซจ กรุ๊ป (Sage Group) ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ หลังประกาศผลกำไรจากการดำเนินงานประจำปีดีกว่าคาด และประกาศซื้อหุ้นคืน 400 ล้านปอนด์

ตลาดจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งจะประกาศหลังปิดตลาดยุโรปแล้วในวันพุธนี้

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่แตกในหุ้นที่เกี่ยวกับ AI ซึ่ง หากการคาดการณ์ของนักลงทุนไม่เป็นไปตามคาด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตา โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง ขณะที่โฮเวิร์ด ลุตนิก จะเป็นผู้นำในการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการค้าและภาษีศุลกากรของทรัมป์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ