ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งได้ช่วยยุติการปรับตัวลงของตลาดที่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองได้หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 502.54 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด หรือ +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,213.32 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด หรือ +0.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,146.17 จุด เพิ่มขึ้น 141.39 จุด หรือ +0.74% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,149.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.20 จุด หรือ +0.79%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น หลังปิดลบ 4 วันติดต่อกัน โดยความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน หนุนราคาน้ำมัน และทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.3%
หุ้นกลุ่มกลาโหม พุ่งขึ้น 1.5% โดยยูเครนเปิดเผยว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเข้าใส่เมืองดนิโปรในวันพฤหัสบดี
สินทรัพย์ปลอดภัยปรับตัวขึ้น อาทิ ทองคำ, ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นกลุ่มประกันพุ่งขึ้น 1.6% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นซูริค อินชัวรันส์ (Zurich Insurance) ที่ทะยานขึ้น 3.1% หลังเปิดเผยเป้าหมายระยะ 3 ปีที่สดใส และหุ้นพีแซตยู (PZU) ของโปแลนด์พุ่งขึ้น 6.8% หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อาทิ เอเอสเอ็มแอล (ASML) และหุ้นเอสเอพี (SAP) ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% หลังบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ของสหรัฐคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 มากกว่าคาดการณ์