ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 พ.ย.) สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะที่การอ่อนค่าของเงินปอนด์ และการปรับตัวขึ้นของหุ้นฮัลมา (Halma) ได้ช่วยชดเชยการร่วงลงของหุ้นเจดี สปอร์ต (JD Sports) ซึ่งร่วงลงหลังประกาศเตือนเกี่ยวกับผลกำไร
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,149.27 จุด เพิ่มขึ้น 64.20 จุด หรือ +0.79%
ดัชนี FTSE 100 ปิดตลาดที่ระดับแข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. โดยหุ้นกลุ่มส่งออกที่มีรายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์ อาทิ หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca), หุ้นเชลล์ (Shell) และหุ้นบีพี (BP) ปรับตัวขึ้น หลังจากปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์
หุ้นฮัลมา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตอุปกรณ์ด้านสุขภาพและความปลอดภัย พุ่งขึ้น 5.7% หลังเผยรายได้และผลกำไรขยายตัวในช่วงครึ่งปีแรก แต่หุ้นเจดี สปอร์ต แฟชั่น ร่วงลง 15.5% หลังเตือนเกี่ยวกับผลกำไรประจำปีที่ระดับต่ำของช่วงคาดการณ์
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า อังกฤษกู้ยืมเงินมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนต.ค. ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายที่ ราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องเผชิญ โดยเธอระบุว่าจะปรับปรุงการเงินของภาครัฐให้ดีขึ้นควบคู่ไปกับการเพิ่มการใช้จ่ายอย่างมาก
อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งขึ้นมากเกินคาดในเดือนที่ผ่านมา โดยอยู่สูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ระดับ 2% ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนคาดว่า BoE จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
บรรดานักลงทุนคาดว่า BoE จะตรึงดอกเบี้ยในเดือนหน้า แต่จะปรับลดดอกเบี้ยลงราว 0.67% ภายในสิ้นปีหน้า