ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (25 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อ สก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐฯ โดยนักลงทุนมีมุมมองบวกว่ามาตรการของเบสเซนต์จะทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,868.68 จุด เพิ่มขึ้น 584.83 จุด หรือ +1.53% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,131.82 จุด ลดลง 98.15 จุด หรือ -0.51% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,255.39 จุด ลดลง 11.80 จุด หรือ -0.36%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.58% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.38%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของหลายประเทศในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) และตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอินเดียในวันศุกร์ (29 พ.ย.)
ทางการสิงคโปร์จะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนต.ค.ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสิงคโปร์จะอยู่ที่ระดับ 1.8% ในเดือนต.ค. ลดลงจากระดับ 2% ในเดือนก.ย. โดยหากเป็นไปตามการคาดการณ์ อัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค.ของสิงคโปร์จะอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2564
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ รวมถึงกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ของจีนในวันพุธ (27 พ.ย.) และอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.ในกรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่นซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยอัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียวถือเป็นมาตรวัดแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วประเทศของญี่ปุ่น