ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (26 พ.ย.) หลังจากที่การขู่ของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,258.61 จุด ลดลง 33.07 จุด หรือ -0.40%
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เขาจะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก จนกว่าทั้งสองประเทศจะกวาดล้างยาเสพติดและการอพยพข้ามพรมแดน นอกจากนี้ เขายังระบุว่าจะเพิ่มภาษีอีก 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนด้วย
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดัน โดยเฉพาะหุ้นผู้ผลิตรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับจีนร่วงลงมากที่สุด ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเปโซเม็กซิกันและดอลลาร์แคนาดา
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อาทิ หุ้นเกล็นคอร์ (Glencore) และริโอ ทินโต (Rio Tinto) ปรับตัวลง 2.8% และ 1.8% ตามลำดับ ขณะที่ราคาทองแดงลดลงจากความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้โลหะรายใหญ่
หุ้นดิอาจีโอ (Diageo) บริษัทผลิตสุรา ร่วงลง 1.6% โดยถูกกดดันจากการขู่ขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
สมาพันธ์อุตสาหกรรมของอังกฤษเปิดเผยในผลสำรวจรายไตรมาสว่า ความเชื่อมั่นของผู้ค้าปลีกของอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี หลังราเชล รีฟส์ รมว.คลังอังกฤษเปิดเผยงบประมาณฉบับแรก โดยผู้ค้าปลีกเตรียมรับมือกับต้นทุนการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และความต้องการที่ลดลงของผู้บริโภค