ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (27 พ.ย.) ขณะที่นักลงทุนประเมินตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียและกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีนซึ่งมีการรายงานในช่วงเช้าวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,165.85 จุด ลดลง 276.15 จุด หรือ -0.72% ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,239.85 จุด เพิ่มขึ้น 80.65 จุด หรือ +0.42% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,276.58 จุด เพิ่มขึ้น 16.82 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ลดลง 0.2% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.6%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 10% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยังไม่ช่วยให้ผลประกอบการของภาคเอกชนฟื้นตัวขึ้นได้
ทางด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของออสเตรเลียอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ในเดือนต.ค. เนื่องจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลได้ส่งผลให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าเช่าปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Headline CPI) เดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.3% โดยดัชนี CPI ทั่วไปยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อระยะเวลา 3 เดือนที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กำหนดไว้ที่ 2% - 3%
อย่างไรก็ดี ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาสินค้าที่มีความผันผวนและเป็นข้อมูลที่ RBA จับตาอย่างใกล้ชิดนั้น พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.5% ในเดือนต.ค. ซึ่งมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 3.2% โดยตัวเลขดังกล่าวยังคงสูงกว่ากรอบเป้าหมายของ RBA ที่ระดับ 2% - 3% และอาจทำให้ RBA เผชิญกับความยากลำบากในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย