ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงสู่แดนลบ ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ก่อนที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่จะมีการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์
ณ เวลา 00.02 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,816.33 จุด ลบ 43.98 จุด หรือ 0.1%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ตลาดยังได้แรงหนุนจากรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ต่ำกว่าคาด และเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการขยายตัว 2.8% ในไตรมาส 3/2567
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.1% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.2% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 2.7% ในเดือนก.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นอกจากนี้ เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 6-7 พ.ย.ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ และเฟดจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 213,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 216,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2567 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.8% ในไตรมาสดังกล่าว ไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 หลังจากมีการขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2567 และ 1.4% ในไตรมาส 1/2567
การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 3/2567 ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง และการพุ่งขึ้นของการส่งออก แม้ว่าการลงทุนในภาคธุรกิจได้ชะลอตัวลง