ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผันผวนในวันนี้ (28 พ.ย.) หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบเมื่อวานนี้ และบรรดานักลงทุนประเมินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างไม่คาดคิดของธนาคารกลางเกาหลีใต้
ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,295.13 จุด เพิ่มขึ้น 160.16 จุด หรือ +0.42% ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,344.07 จุด ลดลง 259.06 จุด หรือ -1.32% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,299.87 จุด ลดลง 9.91 จุด หรือ -0.30%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.15% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.49%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบในวันพุธ (27 พ.ย.) ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.1%
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งแม้ว่าสอดคล้องกับการคาดการณ์ แต่ก็ปรับตัวขึ้นมากกว่าในเดือนก.ย.ที่เพิ่มขึ้น 2.7%
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. แต่ก็คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.และเดือนมี.ค.ปีหน้า
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 3% ในวันนี้ ซึ่งเป็นการดำเนินการที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด เนื่องจากบรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า BOK จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 3.25%
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันนี้นับเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน หลังจากที่ BOK ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เช่นกันในการประชุมครั้งก่อนเมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา