ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น โดยตลาดดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 2 วันจากความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และปัญหาด้านการเมืองและเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานข้อมูลเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 507.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด หรือ +0.46%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,179.25 จุด เพิ่มขึ้น 36.22 จุด หรือ +0.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,425.73 จุด เพิ่มขึ้น 163.98 จุด หรือ +0.85% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,281.22 จุด เพิ่มขึ้น 6.47 จุด หรือ +0.08%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขณะที่การซื้อขายเบาบาง เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันขอบคุณพระเจ้า
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้นเกือบ 1% มากที่สุดในรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นชิปปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การควบคุมการส่งออกชิปของสหรัฐฯ ให้กับจีนนั้นอาจรุนแรงน้อยกว่าที่คาดไว้
หุ้นเอเอสเอ็ม อินเทอร์เนชันแนล (ASM International), หุ้นบีอี เซมิคอนดักเตอร์ (BE Semiconductor) และหุ้นเอเอสเอ็มแอล (ASML) ปรับตัวขึ้น 2% - 2.5%.
หุ้นกลุ่มกลาโหมปรับตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอร์บัสที่พุ่งขึ้น 4.1%
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 0.9%
ตลาดรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซน, ฝรั่งเศส และอิตาลีในวันศุกร์นี้ (29 พ.ย.)