ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (29 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเงินเฟ้อของยูโรโซนเพื่อประเมินแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 510.25 จุด เพิ่มขึ้น 2.95 จุด หรือ +0.58%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,235.11 จุด เพิ่มขึ้น 55.86 จุด หรือ +0.78%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,626.45 จุด เพิ่มขึ้น 200.72 จุด หรือ +1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,287.30 จุด เพิ่มขึ้น 6.08 จุด หรือ +0.07%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายเดือนเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. แต่ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีปรับตัวลง 0.2%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 1.6% และช่วยหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด
หุ้นกลุ่มกลาโหมเพิ่มขึ้น โดยได้แรงหนุนจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานบวก 1.6% หลังได้แรงหนุนจากหุ้นแองโกล อเมริกัน (Anglo American) ซึ่งพุ่งขึ้น 5.4% หลังบริษัทเจฟฟรีส์ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"
การซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างเบาบาง ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันหลังจากปิดทำการในวันพฤหัสบดี (28 พ.ย.) เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า
เงินเฟ้อยูโรโซนเพิ่มขึ้นตามคาดสู่ระดับ 2.3% ในเดือนพ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี
ตลาดปรับตัวรับโอกาสมากกว่า 80% ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมวันที่ 12 ธ.ค.นี้