ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (3 ธ.ค.) เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,359.41 จุด เพิ่มขึ้น 46.52 จุด หรือ +0.56%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ซึ่งเข้าทดสอบเมื่อวันจันทร์ โดยหุ้นเชลล์ (Shell) และหุ้นบีพี (BP) ปรับตัวขึ้นราว 1.6% และ 1.8% ตามลำดับ หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นก่อนการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนพิจารณาการตัดสินใจที่ไม่คาดคิดของ ยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ในการประกาศกฎอัยการศึก และรอข้อมูลเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย
บริษัทค้าปลีกในสหราชอาณาจักรรายงานยอดขายที่ไม่สดใสในเดือนพ.ย. ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์โดยรอยเตอร์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนธ.ค. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่กลับมาสูงขึ้น
อีซี่เจ็ต (EasyJet) หุ้นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.3% หลังจากที่บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนี้
แต่หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบกโค (British American Tobacco) และหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส (Imperial Brands) ร่วงลง 1.8% และ 1% ตามลำดับ หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลอินเดียมีแผนที่จะเพิ่มภาษีสินค้าบริการ (GST) สำหรับบุหรี่ ยาสูบ และน้ำอัดลม