ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันพุธ (4 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่เหนือระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรก ขานรับความแข็งแกร่งของหุ้นเอสเอพี (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ขณะที่นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส หลังพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดและฝ่ายซ้ายยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีมิเชล บาร์นิเยร์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 517.45 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.37%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,303.28 จุด เพิ่มขึ้น 47.86 จุด หรือ +0.66%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,232.14 จุด เพิ่มขึ้น 215.39 จุด หรือ +1.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,335.81 จุด ลดลง 23.60 จุด หรือ -0.28%
ดัชนีหุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 2.2% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ดัชนี STOXX 600 ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นสเตลแลนทิส (Stellantis) พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากมีรายงานว่าประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของบริษัทแอปเปิ้ล (Apple) อาจจะเข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอของสเตลแลนทิส แทนคาร์ลอส ทาวาเรส ที่ประกาศลาออกเมื่อไม่นานมานี้
หุ้น SAP ทะยานขึ้น 3.7% และเป็นปัจจัหนุนดัชนี DAX พุ่งขึ้นปิดที่เหนือระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรก ขณะที่หุ้นฮิวโก บอสส์ (Hugo Boss) ซึ่งเป็นบริษัทแฟชั่นชั้นนำของเยอรมนี พุ่งขึ้น 9.7% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาเดอร์ เฮลเวีย (Baader Helvea) ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นฮิวโก บอสส์ ขึ้นสู่ระดับ "Buy" จากระดับ "ADD"
นักลงทุนจับตาสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส หลังจากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดและฝ่ายซ้ายยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีบาร์นิเยร์ หลังจากบาร์นิเยร์ประกาศว่าจะผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคมผ่านสภาโดยไม่มีการลงมติ
ทั้งนี้ รัฐบาลผสมของบาร์นิเยร์มีแนวโน้มที่จะถูกลงมติไม่ไว้วางใจ และจะเป็นรัฐบาลฝรั่งเศสชุดแรกที่ถูกโค่นด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจนับตั้งแต่ปี 2505