ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (5 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล ขณะที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,349.38 จุด เพิ่มขึ้น 13.57 จุด หรือ +0.16%
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล เพิ่มขึ้น 3.3% โดยหุ้นวอตช์ออฟสวิตเซอร์แลนด์ (Watches of Switzerland) พุ่งขึ้น 14.2% สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 เดือน หลังยืนยันแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568
แต่หุ้นกลุ่ม REITs และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ลดลง 1.9% และ 1.6% ตามลำดับ เนื่องจากหุ้นบริติช แลนด์ (British Land) ร่วงลง 4.9% หลังจากที่เบเรนเบิร์ก(Berenberg) ปรับลดราคาเป้าหมายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายนี้ลงเหลือ 480 เพนนี จาก 500 เพนนี
หุ้นเฟรเซอร์ส (Frasers) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีก ร่วงลง 10.6% หลังจากรัฐบาลอังกฤษประกาศงบประมาณที่มีการปรับขึ้นภาษี ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งส่งผลให้บริษัทต้องปรับลดการคาดการณ์กำไรประจำปี
ธุรกิจหลายแห่งได้ร้องเรียนว่าการตัดสินใจของรัฐบาลในการปรับเพิ่มเงินสมทบประกันสังคมและค่าแรงขั้นต่ำจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น การลงทุนลดลง และท้ายที่สุดจะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง
จากการสำรวจของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) พบว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของนายจ้างในสหราชอาณาจักรมีแผนที่จะขึ้นราคาสินค้าและลดตำแหน่งงานเพื่อรับมือกับมาตรการในงบประมาณของอังกฤษ