ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) โดยตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนปรับตัวรับแนวโน้มการออกงบประมาณใหม่ แม้ยังคงมีความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างต่อเนื่องก็ตาม ขณะเดียวกัน นักลงทุนประเมินข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 520.47 จุด เพิ่มขึ้น 0.94 จุด หรือ +0.18%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,426.88 จุด เพิ่มขึ้น 96.34 จุด หรือ +1.31%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,384.61 จุด เพิ่มขึ้น 25.81 จุด หรือ +0.13% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,308.61 จุด ลดลง 40.77 จุด หรือ -0.49%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันและปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 สัปดาห์
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นอย่างมาก หลังจากประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ประกาศว่าจะแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีภารกิจสำคัญคือผลักดันให้รัฐสภาอนุมัติงบประมาณปี 2568 หลังจากรัฐบาลเดิมถูกโค่นล้มโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
ดัชนี CAC 40 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 3 สัปดาห์ และยังปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 10 สัปดาห์ โดยลดช่วงติดลบในปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากกว่า 3% เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสก็ปรับตัวลงด้วย
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราของยุโรปพุ่งขึ้น 3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยหุ้นมงแคลร์ (Moncler) ของอิตาลี เป็นหนึ่งในหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 5% หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับคำแนะนำลงทุนในหุ้นตัวนี้เป็น "ซื้อ"
ดัชนี DAX ของเยอรมนีปิดบวกทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ และปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน แม้ว่ายังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองอยู่ก็ตาม
ในฝั่งสหรัฐฯ นั้น ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนธ.ค.นี้
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นวิวองดิ (Vivendi) เพิ่มขึ้น 1.9% โดยบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศสเตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในวันจันทร์เกี่ยวกับแผนการแยกกลุ่มธุรกิจออกจากกัน
หุ้นไดเร็ค ไลน์ (Direct Line) พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากบริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษแห่งนี้ประกาศว่าจะสนับสนุนข้อเสนอการเข้าซื้อกิจการมูลค่า 3.61 พันล้านปอนด์ (4.60 พันล้านดอลลาร์) ในรูปแบบเงินสดและหุ้นจากบริษัทอวีว่า(Aviva) หากบริษัทคู่แข่งรายใหญ่ทำข้อเสนออย่างเป็นทางการ
หุ้นบีเอ็มดับบลิว (BMW) พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากเจฟเฟอรีส์ (Jefferies) ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนในหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์เยอรมนีรายนี้จาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"