ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันจันทร์ (9 ธ.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มสินค้าหรูหรา หลังจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 521.22 จุด เพิ่มขึ้น 0.75 จุด หรือ +0.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,480.14 จุด เพิ่มขึ้น 53.26 จุด หรือ +0.72%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,345.96 จุด ลดลง 38.65 จุด หรือ -0.19% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,352.08 จุด เพิ่มขึ้น 43.47 จุด หรือ +0.52%
ดัชนี STOXX 600 index ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่พึ่งพาตลาดจีนพุ่งขึ้น 3.2% และปรับตัวขึ้นมากที่สุดในหนึ่งวันในรอบมากกว่าหนึ่งเดือน หลังจากมีกรมการเมืองหรือโปลิตบูโร (Politburo) ของจีนเปิดเผยว่า จีนจะใช้นโยบายการเงินที่ "ผ่อนคลายอย่างเหมาะสม" ในปีหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกไปสู่ทิศทางที่ผ่อนคลายนับตั้งแต่ปี 2553
หุ้นของบริษัทสินค้าหรูหราที่มีรายได้ส่วนใหญ่จากจีน เช่น หลุยส์วิตตอง (LVMH) และ เคอริง (Kering) เพิ่มขึ้นมากกว่า 3% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี CAC-40 ของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 2.1% ตามราคาน้ำมัน หลังจากการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพในตะวันออกกลางซึ่งเผชิญกับภาวะสงครามอยู่แล้ว
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นวิวองดิ (Vivendi) ปิดบวก 1.2% หลังจากผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนการแยกกิจการของกลุ่มสื่อยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส
บรรดานักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ (11 ธ.ค.) เพื่อประเมินอัตราการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า ขณะที่คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในวันพฤหัสบดีนี้ (12 ธ.ค.)