ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (10 ธ.ค.) หลังบวกติดต่อกันนาน 8 วัน โดยหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหรานำตลาดปรับตัวลง เนื่องจากจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่อ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ (12 ธ.ค.)
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 518.49 จุด ลดลง 2.73 จุด หรือ -0.52%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,394.78 จุด ลดลง 85.36 จุด หรือ -1.14%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,329.16 จุด ลดลง 16.80 จุด หรือ -0.08% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,280.36 จุด ลดลง 71.72 จุด หรือ -0.86%
ข้อมูลบ่งชี้ว่าการส่งออกของจีนชะลอตัวลงอย่างรุนแรง และการนำเข้าหดตัวลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่ากังวลสำหรับเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก
หุ้นของบริษัทสินค้าหรูหราที่มีรายได้จำนวนมากจากจีน อาทิ หลุยส์วิตตอง (LVMH) และ เคอริง (Kering) ร่วงลง 2.5% และ 2.2% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราโดยรวม ลดลง 1.6%
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมืองในฝรั่งเศส โดยพรรคสังคมนิยมสายกลางซ้ายถูกมองว่าอาจมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ส่วนปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้คือการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า นักลงทุนประเมินความเป็นไปได้ถึง 85% ที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25%
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ (11 ธ.ค.) ซึ่งอาจส่งผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า