ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (10 ธ.ค.) โดยปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 4 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. หลังถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ร่วงลง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,280.36 จุด ลดลง 71.72 จุด หรือ -0.86%
หุ้นของบริษัทเหมืองแร่ อาทิ เกล็นคอร์ (Glencore), แอนโทฟากัสตา (Antofagasta) และแองโกล อเมริกัน (Anglo American) ลดลง 1.1%-3.5% เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนที่ชะลอตัวลง และจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นแอชเทด (Ashtead) บริษัทให้เช่าอุปกรณ์ ร่วงลง 14% หลังประกาศแผนย้ายการจดทะเบียนหลักจากตลาดลอนดอนไปยังนิวยอร์ก พร้อมเตือนว่ากำไรประจำปีอาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากตลาดก่อสร้างเชิงพาณิชย์ในสหรัฐฯ อ่อนแอ
แอชเทดดำเนินการตามบริษัทจำนวนมากขึ้นในการย้ายการจดทะเบียนออกจากตลาดยุโรปไปยังตลาดสหรัฐฯ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมีการประเมินมูลค่าที่สูงกว่า
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่าลดลง 1.7% ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมร่วงลงหนักที่สุดในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยร่วงลง 2.1%
บรรดานักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ ซึ่งอาจช่วยยืนยันการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้
ส่วนในอังกฤษนั้น จุดสนใจจะอยู่ที่การเปิดเผยตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเดือนต.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ขณะที่นักลงทุนคาดว่า BoE จะคงอัตราดอกเบี้ยในการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า