ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (20 ธ.ค.) และปิดลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์นำตลาดร่วงลงเนื่องจากหุ้นบริษัทโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ของเดนมาร์กร่วงลง หลังการเปิดเผยข้อมูลที่น่าผิดหวังจากการทดลองยารักษาโรคอ้วนตัวใหม่ของบริษัท
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 502.19 จุด ลดลง 4.47 จุด หรือ -0.88%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,274.48 จุด ลดลง 19.89 จุด หรือ -0.27%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,884.75 จุด ลดลง 85.11 จุด หรือ -0.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,084.61 จุด ลดลง 20.71 จุด หรือ -0.26%
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงหนักถึง 2% ในระหว่างวันก่อนปิดตลาดลดช่วงติดลบลง และปรับตัวลงเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลง 4% โดยหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ดิ่งลง 20.8% หลังจากเปิดเผยผลลัพธ์ที่น่าผิดหวังจากการทดลองระยะสุดท้ายของ CagriSema ซึ่งเป็นยารักษาโรคอ้วนตัวใหม่ โดยมูลค่าตลาดของบริษัทลดลงมากถึง 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นซีแลนด์ ฟาร์มา (Zealand Pharma) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชีวภาพของเดนมาร์ก ร่วงลง 3.8% หลังจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ ปฏิเสธการอนุมัติยารักษาโรคลำไส้ของบริษัท
แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้น 1.4% สวนทางตลาด
นอกจากนี้ ปัจจัยที่กดดันตลาดยังมาจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหภาพยุโรป (EU) ต้องซื้อน้ำมันและก๊าซจากสหรัฐฯ เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลด้านการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก มิฉะนั้น EU จะต้องเผชิญกับมาตรการเรียกเก็บภาษี
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คาดการณ์ว่า จะปรับลดดอกเบี้ยน้อยลงในปี 2568 และคาดว่าเงินเฟ้อจะสูงขึ้น