ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันนี้ หลัง Conference Board เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำกว่าคาดในเดือนธ.ค.
ณ เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,537.04 จุด ลบ 303.22 จุด หรือ 0.71%
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 104.7 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 113.8 จากระดับ 112.8 ในเดือนพ.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้าต่างปรับตัวลงในเดือนธ.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) ก่อนที่จะปิดทำการในวันพุธที่ 25 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปรับตัวอย่างผันผวนในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,000 จุดในวันพุธ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขาย ท่ามกลางความตื่นตระหนก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดในวันศุกร์ ขานรับดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 2.25%, ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.99% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.78%
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 4.6% นับตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 1.7% ส่วนดัชนี Nasdaq บวก 1.8%
อย่างไรก็ดี Stock Trader?s Almanac เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลในอดีต พบว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ ซานต้า แรลลี่ของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
จากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนี S&P 500 สามารถดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลาดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2512
นอกจากนี้ สถิติบ่งชี้ว่า เดือนธ.ค.นับเป็นเดือนที่ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ปรับตัวดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีในปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
โดยเฉลี่ยแล้ว ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.3% และ 0.8% ในเดือนธ.ค.ในปีเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.9% และทำสถิติปรับตัวขึ้นในเดือนธ.ค.ในปีเลือกตั้งดีที่สุดเป็นอันดับ 5 ของปี