ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ทรงตัวในไตรมาส 3/2567
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,102.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.11 จุด หรือ +0.22%
คาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางในสัปดาห์นี้ เนื่องจากตลาดหุ้นอังกฤษจะปิดทำการเร็วขึ้นในวันอังคาร และปิดทำการในวันพุธและพฤหัสบดี เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า พุ่งขึ้น 1.6% หลังยารักษาโรคมะเร็งปอดได้รับการอนุมัติในสหภาพยุโรป (EU) ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพปรับตัวขึ้น 1.2%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.6% หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดของสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้ราคาน้ำมันทรงตัว
ข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษไม่มีการขยายตัวในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วง 3 เดือนแรกภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่สร้างแรงกดดันต่อช่วงเริ่มต้นการดำรงตำแหน่งของเขา
นอกจากนี้ ผลสำรวจบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจของอังกฤษลดลงสู่ระดับต่ำสุดของปี 2567 ในเดือนธ.ค. แม้ว่าบรรดานายจ้างจะมองเศรษฐกิจโดยรวมในแง่บวกมากขึ้นเล็กน้อยก็ตาม
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นไดเร็คไลน์ (Direct Line) พุ่งขึ้น 3.8% หลังอวีว่า (Aviva) บริษัทประกันภัยสัญชาติอังกฤษ ประกาศแผนเข้าซื้อกิจการไดเร็คไลน์ด้วยมูลค่า 3.7 พันล้านปอนด์ (4.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านข้อตกลงเงินสดและหุ้น ขณะที่หุ้นอวีว่าปิดบวก 1.1%
หุ้นแอร์เทล แอฟริกา (Airtel Africa) พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทเริ่มโครงการซื้อหุ้นคืนรอบที่สองมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ