ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันจันทร์ (30 ธ.ค.) ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางในช่วงใกล้วันหยุด โดยตลาดถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงปลายปี รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,573.73 จุด ลดลง 418.48 จุด หรือ -0.97%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,906.94 จุด ลดลง 63.90 จุด หรือ -1.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,486.78 จุด ลดลง 235.25 จุด หรือ -1.19%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ และดับความหวังที่นักลงทุนจะเห็นปรากฏการณ์ "ซานตาคลอส แรลลี่ (Santa Claus Rally)" โดยข้อมูลเชิงสถิติบ่งชี้ว่า "ซานตาคลอส แรลลี่" จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมถึง 2 วันแรกของปีใหม่
การปรับโพสิชันด้านภาษีในช่วงปลายปี รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนในปี 2568 ล้วนแล้วแต่ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรในช่วงปลายปี โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังคงถูกเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงหุ้นเทสลา (Tesla) ดิ่งลง 3.3% และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ร่วงลง 1.4%
โอลิเวอร์ เพอร์ช รองประธานบริษัท Wealthspire Advisors กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กมีแนวโน้มผันผวนในปีหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรก แต่เขาคาดว่าการที่โดนัลด์ ทรัมป์ กลับเข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะนำไปสู่การใช้นโยบายปรับลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจ และจะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นในปีหน้า
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มวัสดุ ร่วงลง 1.59% และ 1.34% ตามลำดับ
หุ้นโบอิ้ง (Boeing) ร่วงลง 2.3% หลังจากทางการเกาหลีใต้สั่งตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง B737-800 หลังเครื่องบินรุ่นดังกล่าวของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ประสบอุบัติเหตุขณะลงจอดที่สนามบินนานาชาติมูอันของเกาหลีใต้ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นโศกนาฏกรรมด้านการบินที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดของเกาหลีใต้นับตั้งแต่ปี 2540 เมื่อเครื่องบินของสายการบินโคเรียนแอร์ (Korean Air) ตกในเกาะกวม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 225 ราย
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบล็อกเชนปรับตัวลง หลังจากราคาบิตคอยน์ร่วงลง โดยหุ้นไมโครสตราเทจี (Microstrategy) ดิ่งลง 8.2% หุ้นเอ็มเออาร์เอ โฮลดิงส์ (MARA Holdings) ร่วงลง 6.2% และหุ้นคอยน์เบส โกลบอล (Coinbase Global) ร่วงลง 3.8%
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 79.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2566 และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 0.9% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.8% ในเดือนต.ค.
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันนี้ (31 ธ.ค.) ก่อนที่จะปิดทำการในวันพุธที่ 1 ม.ค.เนื่องในวันปีใหม่
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค. 2568 เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ โดยที่ผ่านมานั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กมักปิดทำการเพื่อให้เกียรติต่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ถึงแก่อสัญกรรม ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนธ.ค. 2561 เมื่ออดีตประธานาธิบดีจอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์คเกอร์ บุช ถึงแก่อสัญกรรม