ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันแรกของปีใหม่ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,260.09 จุด เพิ่มขึ้น 87.07 จุด หรือ +1.07%
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะมีค่า พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากราคาทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์โดยได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ และนโยบายต่าง ๆ ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
หุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้นบีพี (BP) และหุ้นเชลล์ (Shell) ปรับตัวขึ้น 2.6% และ 2.1% ตามลำดับ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าจีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้นมากกว่า 5% ในปี 2567 โดยปรับตัวขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากเศรษฐกิจของอังกฤษปรับตัวได้ดีกว่าคาด และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม BoE ระบุว่า จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่จับตาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่จะเกิดจากการปรับขึ้นภาษีที่ประกาศไว้ในงบประมาณเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
บรรดาเทรดเดอร์ปรับตัวรับโอกาสที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกมากกว่า 0.59% ในปีนี้ หลังจากการปรับลด 2 ครั้งในปี 2567