ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตานโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
ณ เวลา 18.25 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 42 จุด หรือ 0.1% สู่ระดับ 43,024 จุด
สภาคองเกรสจัดการประชุมวานนี้ โดยได้ประกาศรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายทรัมป์ ก่อนที่จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค.
หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า นายทรัมป์มีแผนที่จะผ่อนคลายนโยบายการตั้งกำแพงภาษีของเขา โดยจะมีการจัดเก็บภาษีศุลกากรต่อทุกประเทศ แต่จะจำกัดเป้าหมายเพียงบางอุตสาหกรรม แทนที่จะเป็นการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศในวงกว้าง
แหล่งข่าวระบุว่า นายทรัมป์กำลังหารือกับคนใกล้ชิดเกี่ยวกับแผนการตั้งกำแพงภาษี โดยเขาจะเล็งไปที่อุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือต่อเศรษฐกิจสหรัฐเท่านั้น แทนที่จะเป็นการปรับขึ้นภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาล หรือ universal tariffs ต่อทุกภาคอุตสาหกรรมจำนวน 10%-20% ตามที่เขาได้ประกาศในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
นักลงทุนจับตาข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ในวันนี้ และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%
นอกจากนี้ ตลาดจับตารายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้
ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 9 ม.ค.2568 เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์
ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กมักปิดทำการเพื่อให้เกียรติต่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่ถึงแก่อสัญกรรม โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.2561 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์คเกอร์ บุช ถึงแก่อสัญกรรม