ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (7 ม.ค.) นำโดยการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งบดบังการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกเพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,245.28 จุด ลดลง 4.38 จุด หรือ -0.05%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของอังกฤษปรับตัวขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.50% ในปีนี้ เนื่องจากเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับตัวเหนือเป้าหมายที่ระดับ 2% ของ BoE
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีอยู่ที่ระดับ 5.252% ในวันอังคาร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2541 โดยจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นให้กับราเชล รีฟส์ รมว.คลังอังกฤษ ซึ่งวางแผนที่จะกู้ยืมเงินครั้งใหญ่เพื่อใช้ในการลงทุนและการใช้จ่ายสาธารณะมากขึ้น
หุ้นกลุ่มการเงินถ่วงตลาดลงมากที่สุด โดยหุ้นเอชเอสบีซี (HSBC) ร่วง 1.1% และหุ้นแนตเวสต์ กรุ๊ป (NatWest Group) ร่วง 3.5%
บรรยากาศการซื้อขายยิ่งซบเซาหลังการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างของอังกฤษขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวที่สุดในรอบ 6 เดือนในเดือนธ.ค. และราคาบ้านในอังกฤษลดลงเกินคาดในเดือนธ.ค.เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2567
จุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้อยู่ที่การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้