ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (8 ม.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลงในวันอังคาร (7 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรและการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,879.36 จุด ลดลง 203.94 จุด หรือ -0.51% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,390.76 จุด ลดลง 56.82 จุด หรือ -0.29% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,218.86 จุด ลดลง 10.78 จุด หรือ -0.33%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดลบ 0.1% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น 0.28%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.699% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. 2567 และเป็นปัจจัยฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเงินเฟ้ออาจจะปรับตัวสูงขึ้นและทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 259,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 8.098 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ย. จากระดับ 7.839 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 7.70 ล้านตำแหน่ง
ทางด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.3
นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพิ่มเทนเซ็นต์เข้าในบัญชีรายชื่อบริษัทที่ทำงานให้กับกองทัพจีน ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นเทนเซ็นต์ร่วงลงเกือบ 8% เมื่อวานนี้