ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (8 ม.ค.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นหลังจากนักลงทุนคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในยุโรปและสหรัฐฯ ในปีนี้ ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ถ่วงบรรยากาศการซื้อขายลงด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 513.67 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,452.42 จุด ลดลง 36.93 จุด หรือ -0.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,329.94 จุด ลดลง 10.63 จุด หรือ -0.05% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,251.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด หรือ +0.07%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปีแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือนตามการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 30 ปี พุ่งสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบ 26 ปี ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันด้านการคลังของรัฐบาลอังกฤษ
ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันอังคารบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนปรับลดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในปีนี้ แม้ยังคงคาดว่าจะปรับลด 0.25% ในเดือนม.ค.และมี.ค.ก็ตาม
ส่วนข้อมูลที่เปิดเผยในวันพุธแสดงให้เห็นว่า คำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของเยอรมนีลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพ.ย. ขณะที่ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนก็หดตัวลงในเดือนธ.ค.
ขณะเดียวกัน CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทรัมป์กำลังพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นเหตุผลทางกฎหมายสำหรับการเก็บภาษีศุลกากรแบบครอบคลุมกับทั้งพันธมิตรและคู่แข่งทางการค้า
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งสร้างความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
หุ้นกลุ่มค้าปลีกในยุโรปได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยร่วงลง 1.8% ขณะที่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ไม่มีความแน่นอนนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8%
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ปรับตัวขึ้น 2.8% หลังจาก UBS ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นนี้จาก "คงน้ำหนักลงทุน" เป็น "ซื้อ"
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินและกลาโหมของยุโรป เพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากทรัมป์เรียกร้องให้พันธมิตรนาโตเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม
หุ้นเชลล์ (Shell) ลดลง 1.4% หลังจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานปรับลดคาดการณ์การผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) สำหรับไตรมาส 4