ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ วิตกเงินเฟ้อหลังข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ แกร่งเกินคาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (10 ม.ค.) โดยลดลงรุนแรงที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากรายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้เกิดความกังวลครั้งใหม่เรื่องเงินเฟ้อ และตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 511.50 จุด ลดลง 4.34 จุด หรือ -0.84%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,431.04 จุด ลดลง 59.24 จุด หรือ -0.79%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,214.79 จุด ลดลง 102.31 จุด หรือ -0.50% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,248.49 จุด ลดลง71.20 จุด หรือ -0.86%

ดัชนี STOXX 600 ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค. แม้ปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 เดือน

ปัจจัยที่กดดันตลาดได้แก่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรปที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของเยอรมนีแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567

การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งร่วงลง 2.3% เนื่องจากมีลักษณะการลงทุนที่คล้ายกับพันธบัตร

หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยลดลง 1.1%

การจ้างงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด และอัตราการว่างงานที่ลดลงเหลือ 4.1% บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ แข็งแกร่ง ทำให้ผู้กำหนดนโยบายของเฟดต้องพิจารณาถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในภาวะที่เศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง

เครื่องมือ FedWatch ของ CME บ่งชี้ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย. และจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมหลังจากนั้นตลอดทั้งปีนี้