ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณการพักฐานของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้
ณ เวลา 20.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 111 จุด หรือ 0.26% สู่ระดับ 43,355 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 700 จุดวานนี้ ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ที่ต่ำกว่าคาด รวมทั้งผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารสหรัฐ
ตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาดดังกล่าว ทำให้นักลงทุนพากันคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้เร็วขึ้นเป็นเดือนมิ.ย.
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.3% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.และพ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจจำนวนมากในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีก, ราคานำเข้าและราคาส่งออก, ดัชนีการผลิตจากเฟดฟิลาเดลเฟีย, สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)