ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (27 ม.ค.) หลังจากนักลงทุนประเมินข้อมูลภาคการผลิตและกำไรของภาคอุตสาหกรรมจีน
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 20,259.97 จุด เพิ่มขึ้น 193.78 จุด หรือ +0.97%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,262.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.74 จุด หรือ +0.30% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,699.76 จุด ลดลง 232.22 จุด หรือ -0.58% ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันนี้เนื่องในวันชาติ ส่วนตลาดหุ้นไต้หวันและตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค. 2568 ลดลงสู่ระดับ 49.1 จากระดับ 50.1 ในเดือนธ.ค. 2567 โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวลงหลังจากที่ขยายตัวติดต่อกันสามเดือนก่อนหน้านี้ โดยหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตมักจะปรับตัวลดลงในเดือนม.ค. เนื่องจากแรงงานต่างด้าวเดินทางกลับภูมิลำเนาก่อนเทศกาลตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 29 ม.ค.
ขณะเดียวกัน NBS เปิดเผยด้วยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการ ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมด้านการบริการและการก่อสร้าง ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 52.2 ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ NBS เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนปรับตัวขึ้น 11% ในเดือนธ.ค. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี
กำไรของภาคอุตสาหกรรมในเดือนธ.ค. ฟื้นตัวหลังจากที่ลดลงติดต่อกัน 4 เดือนก่อนหน้านั้น โดยตัวเลขกำไรลดลง 7.3% ในเดือนพ.ย., ลดลง 10% ในเดือนต.ค., ร่วงลง 27.1% ในเดือนก.ย. และดิ่งลง 17.8% ในเดือนส.ค. เนื่องจากการทรุดตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์และรายได้ที่อ่อนแอลงได้ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ในกลุ่มผู้บริโภค