ดัชนี Nasdaq พุ่งกว่า 1%, Nvidia บวกกว่า 2% หลังดิ่งหนักวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 28, 2025 22:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ขณะที่ราคาหุ้น Nvidia และดัชนี Nasdaq ต่างปรับตัวขึ้น หลังร่วงลงอย่างหนักวานนี้

ณ เวลา 22.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,877.31 จุด บวก 163.73 จุด หรือ 0.37% ส่วนดัชนี S&P 500 บวก 0.54% และดัชนี Nasdaq บวก 1.14%

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ร่วงลงกว่า 5% ในวันนี้ บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะฟองสบู่ของหุ้นในกลุ่มธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) หลังการเปิดตัวโมเดล AI จากบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ของจีน

ดัชนี VIX พุ่งขึ้น 27% เมื่อวานนี้ หลังการเปิดตัว DeepSeek ได้สร้างความตื่นตระหนกต่อความเป็นผู้นำโลกในธุรกิจ AI ของสหรัฐ และเกิดการตั้งคำถามต่อการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีได้ใช้งบประมาณมากมายในการพัฒนาโมเดล AI และการตั้งศูนย์ดาต้าเซนเตอร์ในช่วงที่ผ่านมา

ข้อมูลจาก Vanda Research ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้พากันเข้าซื้อหุ้น Nvidia มากเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ หลังทรุดตัวลงอย่างหนัก

ทั้งนี้ นักลงทุนรายย่อยได้ซื้อหุ้น Nvidia คิดเป็นวงเงิน 562.2 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวงเงินสูงสุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่ปี 2557

Vanda Research ระบุว่า นักลงทุนรายย่อยได้ซื้อหุ้น Nvidia อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ผ่านมา นักลงทุนได้ซื้อหุ้น Nvidia มูลค่ามากถึง 7.3 พันล้านดอลลาร์ แต่วงเงินดังกล่าวยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของคำสั่งซื้อที่สูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2567

ราคาหุ้น Nvidia บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ หลังดิ่งลงเกือบ 17% วานนี้

ทั้งนี้ มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของ Nvidia ทรุดตัวลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติปรับตัวลงรุนแรงที่สุดภายในวันเดียวของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ ส่งผลให้ราคาหุ้น Nvidia ร่วงลง 11.8% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 แต่ก็ยังพุ่งขึ้น 94% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

แรงเทขายดังกล่าว ทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐวูบหายไปถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ ท่ามกลางความวิตกที่ว่าอุตสาหกรรม AI ของจีนจะแซงหน้าซิลลิคอน แวลลีย์ของสหรัฐ

เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4/2567

อย่างไรก็ดี บริษัทโบอิ้งเปิดเผยว่า บริษัทประสบภาวะขาดทุนในไตรมาส 4/2567 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ขณะที่มีรายได้น้อยกว่าคาด

โบอิ้งประสบภาวะขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 6 โดยครั้งล่าสุดที่บริษัทมีกำไรได้เกิดขึ้นในปี 2561 แต่หลังจากนั้น ผลประกอบการของบริษัทก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้ง 737 Max ตกถึง 2 ครั้ง, การแพร่ระบาดของโควิด-19, การตรวจพบความบกพร่องในการผลิตเครื่องบิน, ค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้น รวมทั้งเหตุการณ์ล่าสุดในต้นปี 2567 ซึ่งประตูเครื่องบินโบอิ้ง Max 9 jetliner ได้เปิดออกกลางอากาศขณะบินขึ้นจากสนามบินเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเรกอน

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งแรกของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้

นักลงทุนพากันเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ สอดคล้องกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (Dot Plot) ในการประชุมเดือนธ.ค.2567 ซึ่งเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2568


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ