ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (29 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการเงิน ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังราเชล รีฟส์ รมว.คลังของอังกฤษแสดงความเห็นในเชิงประนีประนอมเกี่ยวกับการปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,557.81 จุด เพิ่มขึ้น 23.94 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยกลุ่มเทคโนโลยีหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด ขณะที่หุ้นชิปในยุโรปและสหรัฐฯ ฟื้นตัวขึ้นจากการเทขายที่เกิดจากการเปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต้นทุนต่ำจากบริษัทดีปซีค (DeepSeek) ของจีนในช่วงต้นสัปดาห์นี้
แอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า BoE ชะลอการออกกฎเกณฑ์ใหม่สำหรับธนาคารพาณิชย์เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเปรียบด้านการแข่งขันกับธนาคารสหรัฐฯ
เงินปอนด์อ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังราเชล รีฟส์ รมว.คลังของอังกฤษเปิดเผยแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับความสัมพันธ์กับสหภาพยุโรปและสหรัฐฯ
หุ้นกลุ่มการเงิน อาทิ เอชเอสบีซี (HSBC), และบาร์เคลยส์ (Barclays) ปรับตัวขึ้น 1.4%-2.4% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นแนตเวสต์ กรุ๊ป (NatWest Group) พุ่งขึ้น 2.3%
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันปรับตัวขึ้น 1.7% และ 2.7% ตามลำดับ
หุ้นกลุ่มรถยนต์ พุ่งขึ้น 3.8% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะประกาศหลังตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการไปแล้วในวันพุธ