ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 400 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของเดือนก.พ. ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะจุดปะทุการทำสงครามการค้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ณ เวลา 21.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,061.05 จุด ลบ 483.61 จุด หรือ 1.09%
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา ขณะที่เรียกเก็บภาษี 10% ต่อน้ำมันที่นำเข้าจากแคนาดา นอกจากนี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน
ทางด้านแคนาดาประกาศตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ ขณะที่รัฐบาลเม็กซิโกเตรียมพิจารณาเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐเช่นกัน ส่วนจีนระบุว่าจะยื่นฟ้องสหรัฐต่อองค์การการค้าโลก (WTO)
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า สหภาพยุโรป (EU) จะเป็นรายต่อไปที่ถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษี
หุ้นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐดิ่งลงนำตลาดในวันนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์นี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.