ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด หลังจีนประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีที่มีการส่งออกจากจีน
ณ เวลา 19.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 129 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 44,436 จุด
ทั้งนี้ จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐ ในอัตรา 15% และเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำมันดิบ อุปกรณ์ด้านการเกษตร และรถยนต์บางประเภท ในอัตรา 10% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
จีนออกมาตรการดังกล่าว หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 10% เริ่มตั้งแต่วันนี้
นายรอสส์ เมย์ฟิลด์ นักยุทธศาสตร์การลงทุนจาก Baird กล่าวว่า ตลาดยังคงอยู่ในภาวะกระทิง โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งของผู้บริโภค และผลกำไรของบริษัทจดทะเบียน โดยการร่วงลงของราคาหุ้นถือเป็นโอกาสในการเข้าช้อนซื้อ
นักลงทุนจับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ในวันศุกร์ที่ 7 ก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.