ดัชนีดาวโจนส์พลิกพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะประกาศมาตรการทางภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในวันนี้
ณ เวลา 23.49 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,490.78 จุด บวก 122.22 จุด หรือ 0.28%
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์มีกำหนดจัดการแถลงข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวเกี่ยวกับการประกาศใช้มาตรการทางภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐในวันนี้ (13 ก.พ.) เวลา 13.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 01.00 น.ของวันที่ 14 ก.พ.ตามเวลาไทย
"เรื่องใหญ่ในวันนี้ : การประกาศใช้มาตรการภาษีตอบโต้ทางการค้า" ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์มีแนวโน้มที่จะลงนามบังคับใช้กฎหมายการค้าปี 1930 ในวันนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าต่อประเทศที่เรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าที่สูงกว่าสหรัฐ
ทั้งนี้ กฎหมายการค้าปี 1930 จะให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสูงสุดถึง 50% ต่อสินค้าที่มีการนำเข้าจากประเทศที่มีการเลือกปฏิบัติทางการค้าต่อสหรัฐ
ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า การเรียกเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐจะมีผลบังคับใช้ในทันทีตามมาตรา 338 ของกฎหมายการค้าปี 1930
อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า ปธน.ทรัมป์จะบังคับใช้มาตรการทางภาษีดังกล่าวต่อประเทศใดหรือสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมใด แต่นักวิเคราะห์ระบุว่า ไทยและอินเดียเป็น 2 ประเทศในเอเชียที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากประเทศทั้งสองมีการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐสูงกว่าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากทั้งสองประเทศ
ทั้งนี้ สหรัฐเป็นตลาดส่งออกสินค้าใหญ่ที่สุดของไทยในปี 2567 โดยไทยมีตัวเลขเกินดุลการค้าสหรัฐในปีดังกล่าวสูงถึง 3.54 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.90 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 และไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐคิดเป็นสัดส่วน 17% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด