ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังตลาดพุ่งขึ้นวานนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี
ณ เวลา 21.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 44,673.35 จุด ลบ 38.08 จุด หรือ 0.09%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ประกาศแผนการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับทุกประเทศที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ พร้อมกับมอบหมายให้นายโฮเวิร์ด ลุตนิก ว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้นำในการศึกษาประเด็นต่าง ๆ เพื่อกำหนดระดับภาษีศุลกากรที่เหมาะสมสำหรับแต่ละประเทศ
นายมาร์ก มาเลก หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของบริษัท Siebert กล่าวว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น จากการคลายความวิตกเกี่ยวกับมาตรการภาษีของปธน.ทรัมป์ อันเนื่องจากการที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที แต่การซื้อขายจะถูกกดดันในวันนี้ เนื่องจากตลาดยังขาดแคลนปัจจัยชัดเจนที่จะหนุนการดีดตัวขึ้นต่อไป
ผลสำรวจของสมาคมนักลงทุนรายย่อยอเมริกัน (AAII) พบว่า นักลงทุนที่มีความไม่เชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 47.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 และเพิ่มขึ้นจากระดับ 42.9% ในสัปดาห์ที่แล้ว
ขณะเดียวกัน นักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางของตลาดหุ้นในระยะ 6 เดือนข้างหน้า มีจำนวน 28.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ และลดลงจากระดับ 33.3% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ นักลงทุนจำนวน 57.4% เชื่อว่านโยบายการตั้งกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะชะลอเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น