ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หุ้นกลุ่มกลาโหมหนุนตลาด

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่า มีแนวโน้มที่การใช้จ่ายด้านการทหารอาจเพิ่มขึ้นในยุโรป หลังถูกกดดันจากสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 555.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.01 จุด หรือ +0.54%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,189.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.59 จุด หรือ +0.13%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,798.09 จุด เพิ่มขึ้น 284.67 จุด หรือ +1.26% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,768.01 จุด เพิ่มขึ้น 35.55 จุด หรือ +0.41%

หุ้นกลุ่มการบินอวกาศและการป้องกัน พุ่งขึ้น 4.6% ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในเดือนก.พ. 2565

หุ้นของบริษัทด้านกลาโหม เช่น Leonardo ของอิตาลี พุ่งขึ้น 8.1%, หุ้น Saab AB ของสวีเดน พุ่งขึ้น 16.2% และ BAE Systems ของอังกฤษ เพิ่มขึ้น 8.9% ขณะที่หุ้น Thyssenkrupp ของเยอรมนี ซึ่งกำลังวางแผนแยกธุรกิจสร้างเรือรบ TKMS ออกไป ทะยานขึ้น 19.8% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

หุ้น Rheinmetall ผู้ผลิตอาวุธของเยอรมนี พุ่งขึ้น 14% ซึ่งช่วยหนุนดัชนี DAX เพิ่มขึ้น 1.3% ทำสถิติสูงสุดใหม่

อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ว่า EC จะเสนอให้ยกเว้นการใช้จ่ายด้านกลาโหมออกจากข้อจำกัดการใช้จ่ายของสหภาพยุโรป (EU) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาติยุโรปใน NATO จัดหาเงินทุนสำหรับป้องกันทวีปยุโรปจากภัยคุกคามของรัสเซีย

ผู้นำยุโรปจัดประชุมฉุกเฉินที่กรุงปารีสเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่ายุโรปอาจไม่มีบทบาทในกระบวนการเจรจายุติสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นกับรัสเซีย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารบวกขึ้น 1% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 17 ปี ขณะที่หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 0.7%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันประธานาธิบดี ทำให้ปริมาณการซื้อขายในยุโรปลดลงต่ำกว่าปกติตลอดทั้งวัน