ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (17 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มการบินอวกาศและการป้องกันประเทศ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารบางตัวปรับตัวลง หลังศาลฎีกาปฏิเสธคำร้องของราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษที่ต้องการแทรกแซงคดีเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,768.01 จุด เพิ่มขึ้น 35.55 จุด หรือ +0.41%
หุ้น BAE Systems ซึ่งเป็นบริษัทด้านกลาโหมของอังกฤษ พุ่งขึ้นเกือบ 9% โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลาโหมทั่วทั้งยุโรป
ดัชนีหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมการบินอวกาศและกลาโหมปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยพุ่งขึ้น 4.5% หลังจาก เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า ความมั่นคงแห่งชาติของอังกฤษกำลังเผชิญกับความท้าทาย และประเทศยุโรปทั้งหมดจำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม
อูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ยังกล่าวว่า EC จะเสนอให้ยกเว้นงบประมาณด้านกลาโหมออกจากข้อจำกัดการใช้จ่ายของสหภาพยุโรป ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เรียกร้องให้ชาติยุโรปในกลุ่มนาโต (NATO) จัดหาเงินทุนสำหรับป้องกันทวีปยุโรปจากภัยคุกคามของรัสเซีย
ผู้นำยุโรปจัดประชุมฉุกเฉินที่ปารีสเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน หลังจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่า ยุโรปอาจไม่มีบทบาทในกระบวนการเจรจายุติสงครามกับรัสเซีย
นักลงทุนคาดว่ารัฐบาลจะออกพันธบัตรเพิ่มเติมเพื่อระดมทุนสำหรับงบประมาณทางทหาร ซึ่งส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษอายุ 2 ปี แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นกดดันหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เช่น Segro และ Land Securities ซึ่งปรับตัวลง 2% และ 0.8% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร เพิ่มขึ้น 1.2%
อย่างไรก็ตาม หุ้น Close Brothers ร่วง 8% และหุ้น Lloyds ลดลง 1.9% หลังศาลฎีกาอังกฤษปฏิเสธคำร้องของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ราเชล รีฟส์ ที่ต้องการแทรกแซงคดีเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ให้กู้ที่มีธุรกิจสินเชื่อยานยนต์หลายแห่ง