ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในวันนี้ (19 ก.พ.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดตลาดที่ระดับ 39,230.62 จุด ลดลง 39.78 จุด หรือ -0.10%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 22,777.46 จุด ลดลง 199.35 จุด หรือ -0.87% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,320.78 จุด ลดลง 3.71 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดลบ 0.56% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดบวก 0.71%
ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รีสอร์ตมาร์-อา-ลาโกของเขาในวันอังคาร (18 ก.พ.) ว่า เขามีความตั้งใจที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ "ในระดับประมาณ 25%" ส่วนการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์และยาก็จะอยู่ในอัตราประมาณเดียวกัน หรืออาจจะสูงกว่า โดยระบุว่าอาจจะมีการประกาศอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ครั้งใหม่ในวันที่ 2 เม.ย.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติ ซึ่งรวมถึงบริษัทของญี่ปุ่น เยอรมนี และเกาหลีใต้ อาจจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หากคณะบริหารของปธน.ทรัมป์นำมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์มาใช้
ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ของญี่ปุ่นระบุว่า ตลาดสหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดสำหรับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 3 ของการส่งออกทั้งหมด ส่วนในปี 2566 นั้น ญี่ปุ่นส่งออกรถยนต์นั่งโดยสารประมาณ 1.44 ล้านคันไปยังสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่า มาตรการภาษีศุลกากรจะช่วยฟื้นฟูการผลิตภายในประเทศ และจะช่วยลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ โดยในสัปดาห์ที่แล้ว ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศในอัตรา 25% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มี.ค.