ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (19 ก.พ.) ส่วนดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮติดต่อกันวันที่ 2 ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และซึมซับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่วางแผนใช้มาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,627.59 จุด เพิ่มขึ้น 71.25 จุด หรือ +0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,144.15 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,056.25 จุด เพิ่มขึ้น 14.99 จุด หรือ +0.07%
ในช่วงแรกดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากนักลงทุนซึมซับรายงานข่าวที่ว่าปธน.ทรัมป์วางแผนที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยาในอัตรา 25% ซึ่งเป็นมาตรการล่าสุดที่สร้างความกังวลว่าอาจจะนำไปสู่สงครามการค้าทั่วโลก
พอล นอลเต้ นักวิเคราะห์จากบริษัท Murphy & Sylvest กล่าวว่า นักลงทุนมองว่าความเคลื่อนไหวของปธน.ทรัมป์ครั้งนี้อาจต้องการเปิดทางให้ประเทศต่าง ๆ เข้ามาเจรจาต่อรอง หรือเป็นการขู่มากกว่าที่จะลงมือทำจริง
คณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ม.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และกังวลว่ามาตรการต่าง ๆ ของปธน.ทรัมป์ โดยเฉพาะมาตรการภาษีศุลกากร อาจจะส่งผลกระทบต่อความพยายามของเฟดในการฉุดเงินเฟ้อให้ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายที่ระดับ 2%
นักวิเคราะห์ของ Murphy & Sylvest กล่าวว่า กรรมการเฟดได้อภิปรายกันเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงในวันข้างหน้า ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่ามีความเป็นไปได้เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เฟดอาจจะยังไม่ดำเนินการใด ๆ และยังคงรอดูสถานการณ์ จนกว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นว่าผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรจะเป็นอย่างไร
หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์พุ่งขึ้น 1.26% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้น 0.79% ส่วนหุ้นกลุ่มวัสดุปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 1.16%
หุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) พุ่งขึ้น 1.3% และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายอื่น ๆ ดีดตัวขึ้นด้วย หลังจากไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวชิปสำหรับใช้ในเทคโนโลยีควอนตัม คอมพิวติง (Quantum Computing) เป็นครั้งแรก
หุ้นแอปเปิ้ล (Apple) ปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัว iPhone 16e ซึ่งเป็น iPhone ราคาประหยัด โดยคาดหวังว่าจะสามารถกวาดส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง พร้อมกับสกัดคู่แข่งอย่างซัมซุง (Samsung) และหัวเว่ย (Huawei)
หุ้นนิโคลา (Nikola) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถบรรทุกไฟฟ้า ดิ่งลง 39.1% หลังจากมีรายงานว่า นิโคลาได้ยื่นคำร้องต่อศาลสหรัฐฯ เพื่อขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 9.8% สู่ระดับ 1.36 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.39 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐฯ