ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มส่งออกร่วงลงหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้น และนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,678.04 จุด ลดลง 486.57 จุด หรือ -1.24%
หุ้นลบนำตลาด ได้แก่ กลุ่มก่อสร้าง กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก และกลุ่มบริการ
ดัชนีนิกเกอิร่วงลงเกือบ 700 จุดในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วฉุดหุ้นกลุ่มส่งออก และนักลงทุนยังคงวิตกกังวลต่อกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25% สำหรับรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และเภสัชภัณฑ์
โคอิจิ ฟูจิชิโระ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจากสถาบันวิจัยไดอิจิไลฟ์ ให้ความเห็นว่า แรงเทขายในหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์กดดันนิกเกอิให้ทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาคส่วนนี้ยังไม่สามารถฟื้นตัวจากภาวะตลาดผันผวนรุนแรงในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มปะทุขึ้น
"บรรยากาศตลาดญี่ปุ่นดำดิ่งลงอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความรู้สึกว่า หุ้นญี่ปุ่นอาจไม่สามารถไล่ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ทันอีกต่อไป" ฟูจิชิโระกล่าว
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้ (21 ก.พ.) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า BOJ อาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้