ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (24 ก.พ.) ขณะที่ชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคอนุรักษ์นิยมในเยอรมนีช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับภาวะชะงักงันทางการเมืองในเยอรมนีซึ่งมีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป แต่ยังไม่สามารถคลายความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการที่รัฐบาลใหม่จะสามารถดำเนินการปฏิรูปการคลังเพื่อกระตุ้นการเติบโตที่ซบเซาได้หรือไม่
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 553.39 จุด ลดลง 0.46 จุด หรือ -0.08%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,090.99 จุด ลดลง 63.52 จุด หรือ -0.78%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,425.93 จุด เพิ่มขึ้น 138.37 จุด หรือ +0.62% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,658.98 จุด ลดลง 0.39 จุด หรือ -0.005%
ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมที่นำโดยฟรีดริช แมร์ซ ชนะการเลือกตั้งระดับชาติ พร้อมให้คำมั่นจะผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา
"ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าใกล้เคียงกับสถานการณ์ที่ดีที่สุดจากมุมมองทางเศรษฐกิจมหภาค เพราะจะนำมาซึ่งรัฐบาลที่เน้นธุรกิจ มีแนวทางปฏิรูปเพื่อการเติบโต และสร้างเสถียรภาพทางการเมืองที่จำเป็นต่อสหภาพยุโรป" แม็กซิมิเลียน คุงเคล หัวหน้าฝ่ายการลงทุนของเยอรมนีของ UBS กล่าว
คุงเคลระบุเสริมว่า รัฐบาลที่เน้นการปฏิรูปอาจช่วยฟื้นความเชื่อมั่น กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค
หุ้นกลุ่มการเงินนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มกลาโหมลดช่วงบวกลง
แมร์ซเตรียมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี แม้ว่าพรรคของเขาจะต้องเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากพรรคขวาจัด AfD ได้คะแนนเป็นอันดับสองเป็นประวัติการณ์ในการเลือกตั้ง
ยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปฏิรูปหนี้สิน ซึ่งจำกัดการขาดดุลงบประมาณไว้ที่ 0.35% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เนื่องจากพรรค AfD และพรรคฝ่ายซ้ายร่วมกันได้จำนวนที่นั่งเพียงพอที่จะขัดขวางการเปลี่ยนแปลง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นเกณฑ์มาตรฐานของยูโรโซน ปรับขึ้น 0.18% แตะที่ 2.48%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นกลุ่มการเงินในดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลงกว่า 1.2% และเป็นกลุ่มฉุดตลาดหุ้นยุโรป
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมลดลง 1% โดยหุ้นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า Schneider Electric ร่วง 6.9% โดยปรับตัวลงแรงที่สุดในดัชนี
กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเป็นกลุ่มที่นำตลาดปรับตัวขึ้น
BlackRock Investment Institute ได้ปรับคำแนะนำลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปจาก "ลดน้ำหนักลงทุน" เป็น "คงน้ำหนักการลงทุน" โดยได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจลดลง ราคาพลังงานที่ปรับลดลง และนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น