ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในวันนี้ (25 ก.พ.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยืนยันจะบังคับใช้มาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาตามกำหนดการเดิม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 38,237.79 จุด ลดลง 539.15 จุด หรือ -1.39% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. ปีที่แล้ว
หุ้นลบนำตลาดได้แก่ กลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ตลอดจนกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันและถ่านหิน
นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ระบุว่า นักลงทุนเทขายหุ้นอย่างหนัก เนื่องจากกลับมากังวลถึงผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่จะมีต่อบริษัทญี่ปุ่น หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเดินหน้าเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกหลังจากที่ได้เลื่อนการบังคับใช้มาแล้วหนึ่งเดือน โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค.นี้
นอกจากปัจจัยด้านภาษีนำเข้าแล้ว การแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมายังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันหุ้นกลุ่มส่งออก เนื่องจากจะส่งผลให้กำไรลดลงเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินเยน
มากิ ซาวาดะ นักกลยุทธ์ของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ กล่าวว่า "ความระมัดระวังของตลาดต่อนโยบายภาษีของทรัมป์ทำให้หุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และยังคงส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มยานยนต์และกลุ่มส่งออกอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของบริษัทเทรดดิ้งรายใหญ่ หลังจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก แสดงความสนใจที่จะเพิ่มการลงทุนในบริษัทเหล่านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 ก.พ.)