ดัชนีดาวโจนส์พลิกร่วงลงกว่า 100 จุด หลังการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนก.พ.
ณ เวลา 22.26 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 43,352.23 จุด ลบ 108.98 จุด หรือ 0.25%
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 98.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2567 จากระดับ 105.3 ในเดือนม.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 102.3
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นดิ่งลงเกือบ 7% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนส.ค.2564
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงาน รวมทั้งการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค ความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน
นักลงทุนจับตาการทำสงครามการค้าของสหรัฐ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวยืนยันว่า สหรัฐจะยังคงเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันเป็นเวลา 30 วัน
ปธน.ทรัมป์กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว แม้แคนาดาและเม็กซิโกเพิ่มการคุมเข้มตามแนวชายแดน และสกัดการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐก่อนเส้นตายในวันที่ 4 มี.ค.
หากสหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนด ก็จะส่งผลกระทบต่อสินค้านำเข้าจากทั้งสองประเทศมูลค่ากว่า 9.18 แสนล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รถยนต์ไปถึงพลังงาน
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัท Nvidia ในวันพุธ ซึ่งจะเป็นการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การเปิดตัว DeepSeek ธุรกิจสตาร์ตอัปด้าน AI ของจีน ซึ่งส่งแรงสั่นสะเทือนต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐ และทำให้มูลค่าหุ้นตามราคาตลาดของ Nvidia ทรุดตัวลงเกือบ 6 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตลาดจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)