ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด สวนทางดัชนี Nasdaq ที่ปรับตัวลง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน
ณ เวลา 22.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 43,798.75 จุด บวก 365.63 จุด หรือ 0.84% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 0.62% และ S&P 500 ขยับขึ้น 0.02%
ราคาหุ้น Nvidia ดิ่งลงกว่า 2% หลังดีดตัวขึ้นในช่วงแรก ขานรับการเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ประจำไตรมาส 4 ที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนซื้อขายด้วยความระมัดระวัง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ยืนยันในวันนี้ว่า สหรัฐจะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้าที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกตามกำหนดเดิมที่เคยระบุไว้ และสหรัฐจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุใน Truth Social ว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. เนื่องจากทั้งสองประเทศยังคงไม่ได้ดำเนินการมากพอในการสกัดการไหลทะลักของยาเฟนทานิลผ่านชายแดนเข้าสู่สหรัฐ
นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 4 มี.ค.เช่นกัน นอกเหนือจากที่มีการเรียกเก็บในอัตรา 10% อยู่แล้วในขณะนี้
ขณะเดียวกัน ปธน.ทรัมป์เสริมว่า สหรัฐจะบังคับใช้ภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ในวันที่ 2 เม.ย. อย่างเต็มกำลังและมีประสิทธิภาพ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)