ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ (7 มี.ค.) โดยปิดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการเทขายหุ้นกลุ่มส่งออกจากการแข็งค่าของเงินเยน ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,887.17 จุด ลดลง 817.76 จุด หรือ -2.17% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.
หุ้นลบนำตลาด ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า, กลุ่มเครื่องมือชั่งตวงวัด และกลุ่มประกัน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.530% ในช่วงสั้น ๆ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2552 ท่ามกลางความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในประเทศ
มาซาฮิโระ อิชิกาวะ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดของบริษัทซูมิโตโม มิตซุย ดีเอส แอสเซต แมเนจเมนต์ กล่าวว่า แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะประกาศระงับการเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ แต่ "ภาพรวมยังคงไม่แน่นอน" เนื่องจากทรัมป์ยังคงพูดถึงการเก็บภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ
โบรกเกอร์ระบุว่า นักลงทุนยังเทขายหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเซมิคอนดักเตอร์ หลังดัชนี Nasdaq ของสหรัฐฯ ร่วงลง โดยยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับการลงทุนที่มากเกินไปในปัญญาประดิษฐ์ หลังจากการเติบโตของโมเดล AI จากดีปซีค (DeepSeek) ของจีนในเดือนม.ค.