ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดิ่งลงกว่า 200 จุด หลังแคนาดาประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์
ณ เวลา 21.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 41,196.37 จุด ลบ 237.11 จุด หรือ 0.57%
นายโดมินิก เลอบลอง รัฐมนตรีคลังแคนาดา กล่าวว่า แคนาดาจะเรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อตอบโต้ต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% ต่อเหล็กและอะลูมิเนียมจากแคนาดา
นายเลอบลองกล่าวว่า ภาษีดังกล่าวจะครอบคลุมถึงเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากสหรัฐ รวมทั้งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์กีฬา และผลิตภัณฑ์เหล็กหล่อ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.)
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในช่วงแรก ขานรับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นักลงทุนยังคงมีความกังวลว่าการทำสงครามการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มโอกาสที่สหรัฐจะเผชิญภาวะถดถอยเป็น 20% จากเดิมที่ระดับ 15% ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.5% จากเดิมที่ระดับ 1.9%
ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -2.4% ในไตรมาส 1/2568 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว +2.3% ในไตรมาสดังกล่าว