ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (13 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขู่จะเรียกเก็บภาษีสินค้าประเภทแอลกอฮอล์จากสหภาพยุโรป (EU) ทำให้สถานการณ์สงครามการค้าทั่วโลกทวีความตึงเครียดมากขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 540.44 จุด ลดลง 0.81 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,938.21 จุด ลดลง 50.75 จุด หรือ -0.64%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 22,567.14 จุด ลดลง 109.27 จุด หรือ -0.48% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,542.56 จุด เพิ่มขึ้น 1.59 จุด หรือ +0.02%
ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะเก็บภาษีไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ จากประเทศใน EU ที่อัตรา 200% หาก EU ไม่ยกเลิกภาษีนำเข้าวิสกี้
หุ้นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง เพอร์นอด ริคาร์ด (Pernod Ricard) และคัมพารี (Campari) ร่วงลง 4% และ 4.3% ตามลำดับ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 0.2% ขณะที่หุ้นหลุยส์วิตตอง (LVMH) ผู้ผลิตคอนญักเฮนเนสซี ลดลง 1.1%
"สถานการณ์เริ่มวุ่นวายมากขึ้น เพราะมีการปรับขึ้นและลดภาษีตลอดเวลา และไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์จะไปจบที่ตรงไหน" อีเพค ออซการ์เดสกายา นักวิเคราะห์อาวุโสจากสวิสโคต แบงก์ (Swissquote Bank) กล่าว
"ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินนโยบายจริงหรือแค่กลยุทธ์การเจรจา แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก"
ดัชนีหุ้นกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน ลดลง 1.7% และนำตลาดปรับตัวลง โดยหุ้นสเตลแลนติส (Stellantis) ผู้ผลิตรถยนต์ และหุ้นวาเลโอ (Valeo) ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์ ร่วงลง 2.3% และ 6.4% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมปรับตัวขึ้น 1.4% และหุ้นกลุ่มดูแลสุขภาพ เพิ่มขึ้น 0.5% โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ (Novo Nordisk) ที่พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนเคปเลอร์ เชอฟโรซ์ (Kepler Cheuvreux) ปรับคำแนะนำหุ้นจาก "ถือ" เป็น "ซื้อ"
ทรัมป์ขู่เพิ่มความรุนแรงของสงครามการค้ากับ EU เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ EU ประกาศมาตรการตอบโต้ทางภาษี
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของทรัมป์สร้างความผันผวนรุนแรงให้กับตลาดทั่วโลก โดยนักวิเคราะห์กังวลว่า ความไม่แน่นอนนี้อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
หุ้นผู้ผลิตรถบรรทุกในยุโรปร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ (EPA) ตัดสินใจเริ่มกระบวนการยกเลิกกฎการปล่อยไอเสียของรัฐบาลโจ ไบเดน
หุ้นเดมเลอร์ ทรัค (Daimler Truck) ร่วงลง 4.4% หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นโวลโว่ (Volvo) ร่วง 2.2% และหุ้นทราตอน (Traton) ร่วง 2.6%
บรรดานักลงทุนจับตาประเด็นสำคัญในเยอรมนี ซึ่งรัฐสภาเริ่มการประชุมพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับกองทุนมูลค่า 5 แสน ล้านยูโรสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงกฎการกู้ยืมครั้งใหญ่เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านกลาโหมของประเทศ
นอกจากนี้ ประเด็นรัสเซียและยูเครนยังคงเป็นจุดสนใจ หลังจากรัสเซียตกลงกับข้อเสนอของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการหยุดยิงในยูเครน แต่ระบุว่ายังต้องหารือรายละเอียดเพิ่มเติม