ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (14 มี.ค.) ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากสัญญาณที่บ่งชี้ว่าหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ จะรอดพ้นจากการปิดดำเนินงานหรือชัตดาวน์ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 36,919.12 จุด เพิ่มขึ้น 129.09 จุด หรือ +0.35% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 24,047.46 จุด เพิ่มขึ้น 584.81 จุด หรือ +2.49% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,413.98 จุด เพิ่มขึ้น 55.25 จุด หรือ +1.65%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.39% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ขยับลง 0.06%
ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นหลังจากที่ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เขาจะลงคะแนนเสียงสนับสนุนการผลักดันร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคเดโมแครตจะสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงการถูกชัตดาวน์
ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยบดบังปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ อันเนื่องมาจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ส่วนตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าบริโภค โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่ารัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ