ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะรอดพ้นจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์
ณ เวลา 20.38 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 41,047.92 จุด บวก 234.36 จุด หรือ 0.58%
นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ยืนยันว่า เขาจะไม่ขัดขวางร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวของพรรครีพับลิกัน
หากวุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว และส่งต่อให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันนี้ (14 มี.ค.) ก็จะส่งผลให้สหรัฐรอดพ้นจากการถูกชัตดาวน์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
แม้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นในวันนี้ แต่ก็คาดว่าดัชนีดาวโจนส์จะปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2565 ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq จะปรับตัวลงติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย
เจพี มอร์แกน คาดว่าสหรัฐมีโอกาส 40% ที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 30%
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว -2.4% ในไตรมาส 1/2568 หลังจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว +2.3% ในไตรมาสดังกล่าว
นักลงทุนเกาะติดการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
นอกจากนี้ ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด หลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันที่ 19 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้ รวมทั้งจับตารายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อ