ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 178 จุด หรือ -0.43% แตะที่ระดับ 41,672 จุด ณ เวลา 06.40 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (17 มี.ค.) หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์ในรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า การที่ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะปรับฐาน (Correction) ถือเป็นเรื่องที่ปกติ
"ในฐานะที่ผมอยู่ในแวดวงธุรกิจด้านการลงทุนมานานถึง 35 ปี ผมสามารถบอกได้ว่า การที่ตลาดปรับฐานถือเป็นเรื่องดี และเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นผมจึงไม่กังวลเกี่ยวกับตลาด โดยในระยะยาวนั้น หากเรามีการนำนโยบายภาษีมาใช้ มีการผ่อนคลายกฎระเบียบ และมีความมั่นคงด้านพลังงาน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้น" เขากล่าว
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ในรายการดังกล่าวในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) นายเบสเซนต์ยังกล่าวด้วยว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจจะไม่เผชิญวิกฤตการณ์ทางการเงิน
ดัชนี Nasdaq เข้าสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) เมื่อวันที่ 6 มี.ค. และดัชนี S&P500 เข้าสู่เขตปรับฐาน (Correction Territory) เมื่อวันที่ 13 มี.ค. หลังจากดัชนีทั้งสองปรับตัวลงกว่า 10.1% จากระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า
รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าสู่สหรัฐฯ ในอัตรา 25% เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ส่งผลให้สหภาพยุโรป (EU) และแคนาดาตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นเหตุให้ปธน.ทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีกและเตือนว่าจะใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในเดือนหน้า